JavaScript ดูเหมือนจะถูกปิดใช้งานในเบราเซอร์ของคุณ เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในไซต์ของเราโปรดเปิดใช้ Javascript ในเบราเซอร์ของคุณ
รายการ 1-6 จาก 18
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)สำหรับลูกค้าและผู้ใช้บริการ (โซเชียลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ ออนไลน์ เว็บไชต์)(ฉบับแก้ไขครั้งที่ 2)
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ลูกค้าและผู้ใช้บริการผ่านทางโซเชียลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ ออนไลน์ และเว็บไซต์ (“ท่าน”) ได้ทราบและเข้าใจถึงรูปแบบของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่าน เมื่อท่านได้มีการติดต่อกับบริษัท เพื่อดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับกิจกรรมที่มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ เช่น เพื่อสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ส่งมอบสินค้าและบริการ การชำระเงิน การบริการหลังการขาย การเปลี่ยน - คืนสินค้า การคืนเงิน
- เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเข้าสู่ระบบ (Log in) เพื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่นๆ รวมถึงการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
- เพื่อดำเนินการทางการตลาด และวิเคราะห์ข้อมูล เช่น กิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ การสะสมคะแนนการสั่งซื้อ รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการวิจัยทางตลาด เช่น ทำแบบสอบถาม เข้าสัมภาษณ์
- เพื่อปรับปรุงพัฒนา สินค้าและบริการ รวมถึงการปรับปรุงการใช้งานบนเว็บไซต์
- เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
- กรณีท่านให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ
- เพื่อส่งข่าวสาร และสิทธิประโยชน์ ผ่านทาง อีเมล เอสเอ็มเอส โทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์
- เพื่อประโยชน์ในการวิจัยตลาด เช่น ทำแบบสอบถาม เข้าสัมภาษณ์
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
- ข้อมูลเกี่ยวกับท่าน เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขประจำตัว ผู้เสียภาษี เป็นต้น
- ข้อมูลสถานที่ หรือวิธีการติดต่อท่าน เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ แผนที่ จุดที่ตั้ง เป็นต้น
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายละเอียดบัญชีธนาคาร (เฉพาะกรณีขอคืนเงิน)
- ข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้เมื่อท่านติดต่อบริษัทฯ และ/หรือเมื่อบริษัทฯ ดูแลให้บริการหลังการขาย การทำแบบสอบถาม และการสัมภาษณ์
- คุกกี้ (Cookie) บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในแบบเดียวกัน เมื่อท่านใช้บริการ เยี่ยมชม เว็บไซต์ หรือ ระบบอีคอมเมิร์ซของบริษัทโดยท่านสามารถยกเลิกการใช้งานหรือลบคุกกี้โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่าน อย่างไรก็ตาม การกระทำนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานบางส่วนของเว็บไซต์ หรือ ระบบอีคอมเมิร์ซ
รายละเอียดคุกกี้แต่ละประเภทของบริษัทที่อาจจะถูกใช้งานในเว็บไซต์ของบริษัทฯ มีดังนี้
1. คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Necessary Cookies) หมายถึง คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้เป็นปกติ มีความปลอดภัย และทำให้ท่านสามารถเข้าใช้เว็บไซต์ได้ เช่น การ log in เข้าสู่เว็บไซต์ การยืนยันตัวตน โดยท่านไม่สามารถปิดการใช้งานของคุกกี้ประเภทนี้บนเว็บไซต์ของเรา
2. คุกกี้เพื่อการตลาด ( Marketing Cookies) หมายถึง คุกกี้ประเภทที่ทำให้บริษัทฯ สามารถติดตามและ จัดเก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ และการมีปฏิสัมพันธ์ของท่านกับเว็บไซต์ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีแก่ท่าน และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการโฆษณาข้อมูลให้มีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านมากที่สุด
3. คุกกี้ของบุคคลที่ 3 (Third-Party Cookies) หมายถึง คุกกี้ของผู้ให้บริการภายนอก ที่บริษัทอนุญาตให้ติดตั้งไว้บนหน้าเว็บไซต์เพื่อใช้สำหรับวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม และ/หรือผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ เพื่อการปรับปรุงระบบเว็บไซต์ให้ตอบสนองมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ คุกกี้ไม่ได้เป็นช่องทางที่ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของท่านหรือข้อมูลใดๆเกี่ยวกับท่านได้ ยกเว้นข้อมูลที่ท่านเลือกที่จะแบ่งปันกับบริษัท ท่านสามารถเลือกที่จะยอมรับหรือปฏิเสธคุกกี้ได้ในเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ได้อย่างเต็มที่
โปรดศึกษานโยบายการใช้งานคุกกี้ของแต่ละเว็บไซต์เมื่อท่านซื้อสินค้า และ/หรือรับบริการของทางบริษัทฯ ผ่านเว็บไซต์อื่น ด้วยเว็บไซต์ดังกล่าวอาจมีนโยบายการใช้งานคุกกี้ของตนเอง
3. ฐานกฎหมาย
- ความจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญา
- ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ความยินยอม กรณี การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่ต้องได้รับความยินยอม
4. การเปิดเผยข้อมูล
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในฉบับนี้บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
- หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย
- ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ ให้แก่บริษัท เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการงานประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
5. แหล่ง/วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การใช้งานทางเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย บัญชีทางการของไลน์ โทรศัพท์ อีเมล นามบัตร รวมถึงข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้เมื่อท่านติดต่อกับบริษัทฯ และ/หรือเมื่อบริษัทฯดูแลให้บริการหลังการขาย การทำวิจัย และการสัมภาษณ์ เป็นต้น
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ท่านมีสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้
6.1 สิทธิในการได้รับแจ้ง โดยบริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการประมวลลข้อมูลส่วนบุคคลให้ท่านทราบ ก่อนหรือในขณะที่บริษัททำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน
6.2 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
6.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
6.4 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
6.4.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัททำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านที่ให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
6.4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
6.4.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
6.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของบริษัท)
6.6 สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษา เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือเงื่อนไขการใช้บริการให้บริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไป
6.7 สิทธิในการขอรับ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านจากบริษัทได้ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้การคัดค้านหรือถอนความยินยอมเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บ
รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพ ไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ หรืออาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้
7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจมีการเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หรือ คลาวด์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไม่ว่ากรณีใด ๆ บริษัทจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 15 ปี นับจากวันที่เลิกสัญญาหรือยุติการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวบริษัทจะลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ เพื่อการใช้ประโยชน์ด้านอื่น เช่น การวิเคราะห์ทางการตลาด การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน เป็นต้น
9. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลสูญหาย มีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทนอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
10 การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย หรือบุคคลอื่นใดที่มีอำนาจตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องขอผ่านทางอีเมล pdpa@oceanglass.com ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย หรือบุคคลอื่นใดที่มีอำนาจตามกฎหมาย คัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วยทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิตามข้อความในวรรคสองได้หากเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือเป็นกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
11. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกิจกรรมที่มีการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
12. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ บริษัทอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท อีเมล หรือข้อความ (SMS) อย่างไรก็ดี บริษัทขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่หรือฉบับแก้ไขอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท การที่ท่านเข้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมที่มีการประมวลผลนี้ ถือว่าท่านได้รับทราบและยอมรับตามเนื้อหาในประกาศนี้แล้ว ทั้งนี้ โปรดระงับการใช้งานโดยทันที หากท่านไม่ยอมรับหรือไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาใดๆ ในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ประกาศฉบับนี้ผ่านช่องทางข้างต้นแล้ว บริษัทจะถือว่าท่านได้รับทราบและยอมรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
13. การติดต่อสอบถาม
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) : บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน)
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) : คณะทำงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ติดต่อ
- 75/88 - 90 ชั้น 34 อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 2 ถ.สุขุมวิท 19 (ซ.วัฒนา) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทร (02) 661 – 6556 ต่อ 1102 หรือ 1200
อีเมล pdpa@oceanglass.com
ฉบับแก้ไข ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566
คุณสามารเปลี่ยนแปลงความยินยอมของคุณได้ทุกเมื่อที่ My Account หรือติดต่อเราได้ที่ cs@oceanglass.com
ก่อนใช้งานเว็บไซต์ ฉันได้อ่านและทำความเข้าใจ คำประกาศความเป็นส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว
อีเมล หรือ เบอร์มือถือ
ป้อนรหัส OTP 6 หลักที่ส่งไปที
หากคุณยังไม่ได้รับ กดเพื่อขอรหัสใหม่หลังกำหนด
อีเมล *
รหัสผ่าน *
เลือกวิธีอื่นจะเข้าใช้งาน
ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน
นโยบายความเป็นส่วนตัว
ข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ
นามสกุล
เบอร์มือถือ
อีเมล
รหัสผ่าน
ยืนยันรหัสผ่าน
ประเภทธุรกิจ
คำประกาศความเป็นส่วนตัว